การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร

ความเป็นมา

    การเลี้ยงสุกรได้รับความนิยมจากเกษตรกรไทย มีจำนวนผู้เลี้ยงทั่วทุกภูมิภาค ทั้งที่เลี้ยงให้เพื่อการบริโภคหรือเพื่อการค้า การยกระดับมาตรฐานการผลิตตั้งแต่ระดับฟาร์ม จึงช่วยสร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค สามารถป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์สุกรของไทยอย่างยั่งยืน ดังนั้นคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ได้พิจารณา และเห็นชอบให้กำหมดมาตรฐานการปฏิบัติทางกางการมกษตรที่สำหรับฟาร์มสุกรขึ้น

วัตถุประสงค์

    ก่าหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร ตามที่กำหนดนิยามไว้ครอบคลุมองค์ประกอบฟาร์ม การจัดการฟาร์ม บุคลากร สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ สิ่งแวดล้อม และการบันทึกข้อมูล เพื่อให้ได้สุกรที่มีความเหมาะสมในการนำไปเลี้ยง หรือนำไปใช้เป็นอาหาร โดยค่านึงถึงความปลอดภัยอาหาร สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ และสิ่งแวดล้อม

ขอบข่าย

    มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ กำหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ที่สำหรับฟาร์มสุกรที่กำหนด นิยามไว้ใน ฟาร์มสุกร (pig farm) หมายถึง สถานประกอบการที่เลี้ยงสุกร สุกรอนุบาล หรือสุกรขุน อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ครอบคลุมองค์ประกอบฟาร์ม การจัดการฟาร์ม บุคลากร สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ สิ่งแวดล้อม และการบันทึกข้อมูล เพื่อให้ได้สุกรที่มีความเหมาะสมในการ นำไปเลี้ยง หรือนำไปใช้เป็นอาหาร โดยดำนึงถึงถึงความปลอดภัยอาหาร สุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ และสิ่งแวดล้อม มาตรฐานสินค้าเกษตรนี้ ใช้กับฟาร์มที่เลี้ยงสุกรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sus scrofa ทั้งที่เป็นสุกรบ้านและสุกรป่า

ความเชื่อมโยงของ มกษ. 6403-2565 กับผู้ผลิต / ผู้นำเข้า / ผู้ส่งออกสุกร

1. ผู้ผลิต (ฟาร์มสุกร)

มาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาสำหรับ ผู้ผลิตโดยตรง คือเกษตรกรหรือผู้ประกอบการฟาร์มสุกรทุกระดับ เพื่อให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเลี้ยงที่ดี (GAP – Good Agricultural Practices) เช่น

  • การจัดการฟาร์มที่ถูกสุขลักษณะ
  • การควบคุมโรคและการใช้ยาสัตว์
  • การจัดการของเสียและสิ่งแวดล้อม
  • การตรวจสอบย้อนกลับของสุกรแต่ละรุ่น

การปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ทำให้ฟาร์มได้รับการรับรองคุณภาพ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการจำหน่ายในประเทศและส่งออก

2. ผู้นำเข้า (Importers)

ผู้นำเข้าสุกรหรือผลิตภัณฑ์จากสุกรที่ต้องการจำหน่ายในประเทศไทย จะต้องนำเข้าสินค้าจากแหล่งผลิตที่มีระบบมาตรฐานเทียบเท่ากับ มกษ. 6403-2565 หรือมาตรฐานฟาร์มที่กรมปศุสัตว์รับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าสุกรที่นำเข้า

  • ปลอดโรคระบาดสัตว์
  • ผ่านการรับรองสุขภาพสัตว์ (Health Certificate)
  • มีระบบการผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

3. ผู้ส่งออก (Exporters)

สำหรับผู้ส่งออกสุกรหรือผลิตภัณฑ์จากสุกร การได้รับการรับรองตาม มกษ. 6403-2565 เป็น “ใบเบิกทางสำคัญ” เพราะประเทศคู่ค้า เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม หรือสหภาพยุโรป ต้องการหลักฐานการรับรองมาตรฐานฟาร์ม GAP และระบบสุขอนามัยสัตว์จากประเทศไทย เพื่อยืนยันว่า

  • สุกรมีแหล่งที่มาแน่นอน (traceability)
  • การผลิตเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสวัสดิภาพสัตว์และสิ่งแวดล้อม
  • เนื้อสุกรที่ส่งออกปลอดภัยต่อผู้บริโภค
  •  
สาระสำคัญ ฟาร์มสุกร

สาระสำคัญการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร

    สรุปสาระสำคัญ มกษ. 6403-2565 (การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร)

ขอบข่ายการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (มกษ. 6403-2565)

  • ฟาร์มสุกร (pig farm) หมายถึง สถานประกอบการที่เลี้ยงสุกรพ่อแม่พันธุ์สุกรอนุบาล หรือสุกรขุน อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน
  • ใช้กับฟาร์มที่เลี้ยงสุกรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Sus scrofa ทั้งที่เป็นสุกรบ้านและสุกรปา

ข้อกำหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (มกษ. 6403-2565)

1. องค์ประกอบฟาร์ม

1.1 สถานที่ตั้ง

  • มีหลักฐานแสดงการยินยอมให้ประกอบกิจการจากราชการส่วนท้องถิ่น
  • ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนของอันตรายทางกายภาพเคมีและชีวภาพ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสุกรและคน รวมทั้งสวัสดิภาพสัตว์ หรือมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม
  • ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีเส้นทางการคมนาคมที่สามารถขนส่งสุกร อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวก ไม่อยู่ในบริเวณที่มีน้ำท่วมขังได้
  • มีแหล่งน้ำที่สะอาดและใช้เพียงพอ
  •  
ข้อกำหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร

1.2 ผังและลักษณะฟาร์ม

  • มีพื้นที่ขนาดเพียงพอและเหมาะสมในการเลี้ยงสุกร ไม่หนาแน่นจนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสวัสดิภาพสัตว์
  • มีรั้วหรือแนวกั้นธรรมชาติที่สามารถควบคุมการเช้า-ออกของคนและสัตว์อื่นจากภายนอกได้
  • มีการวางผังฟาร์มสุกรที่เอื้อต่อการปฏิบัติงานอย่างถูกสุขลักษณะ กำหนดพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นสัดส่วน
  • มีมาตรการในการป้องกันสัตว์ต่าง ๆ เข้าสู่พื้นที่ส่วนการผลิต และมีการควบคุมการเข้า-ออกของคนผ่านทางช่องทางเข้า-ออกที่กำหนด
  •  

1.3 โรงเรือน

  • มีโครงสร้างแข็งแรง ถูกสุขลักษณะ มีการระบายอากาศที่ดี ง่ายต่อการทำความสะอาดและบำรุงรักษา
  • มีพื้นที่เพียงพอในการเลี้ยงสุกร และมีสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือนที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ ขนาด และอายุของสุกร
  • กรณีโรงเรือนปิด ที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อม ให้มีสัญญาณเตือน และมาตรการดำเนินการในกรณีอุปกรณ์อัตโนมัติไม่ทำงาน ไฟฟ้าดับหรือขัดข้อง
  •  

2. การจัดการฟาร์ม

2.1 คู่มือการจัดการฟาร์ม

  • มีคู่มือการจัดการฟาร์มที่มีรายละเอียดการปฏิบัติงานที่สำคัญภายในฟาร์ม ได้แก่
    • การเตรียมโรงเรือนก่อนนำสุกรเข้าเลี้ยง
    • การจัดการฟาร์ม
    • ระบบการเลี้ยงสุกร
    • การจัดการอาหารและน้ำสำหรับสุกร
    • การทำความสะอาดและบำรุงรักษาโรงเรือน และอุปกรณ์
    • การจัดการด้านสุขภาพสุกร
    • การควบคุมสัตว์พาหะ
    • การจัดการด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม
    • การจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์
    • การบันทึกข้อมูล
  • มีการจัดทำเอกสารสำหรับขั้นตอนและวิธีปฏิบัติงานที่สำคัญ
  •  

2.2 การจัดการอาหารและน้ำ

  • ใช้อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการเลี้ยงสุกร ตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.พ.ศ. 2558
  • ห้ามใช้สารต้องห้ามตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 25558
  • การผสมยาลงในอาหารสัตว์ให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร
  • มีการตรวจสุขภาพอาหารสัตว์ทางกายภาพเบื้องต้น
  • จัดภาชนะและอุปกรณ์ให้อาหารให้เหมาะสมกับอายุ ขนาด และจำนวนของสุกร
  • มีสถานที่เก็บอาหารสัตว์และวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สะอาด ระบายอากาศดีสามารถป้องกันความชื้น เชื้อรา และสัตว์พาหะต่าง ๆ ได้
  • นำอาหารสัตว์ที่เก็บไว้ก่อนออกใช้ก่อน
  • น้ำที่ใช้ในฟาร์มได้รับการป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งที่เป็นอันตราย
  • มีน้ำสะอาดให้สุกรกินได้อย่างทั่วถึง
  •  

2.3 การจัดการโรงเรือน อุปกรณ์ และการบำรุงรักษา

  • ทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์ให้ถูกสุขลักษณะ
  • นำมูลสัตว์ออกและทำความสะอาด ไม่ให้เกิดการหมักหมมภายในโรงเรือน และบริเวณรอบๆ
  • ภายหลังจากการย้ายสุกรออกจากโรงเรือน ให้ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อคอก และอุปกรณ์ และปิดพักไว้ก่อนนำสุกรใหม่เข้าเลี้ยง ตามระยะเวลาที่กรมปศุสัตว์กำหนด
  • มีมาตรการควบคุมและกำจัดสัตว์พาหะที่เหมาะสม
  •  

3. บุคลากร

  • มีจำนวนบุคลากรเพียงพอ จัดแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจน
  • บุคลากรมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน
  • มีสัตวแพทย์ที่มีใบรับรองเป็นสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกรจากกรมปศุสัตว์
  • บุคลากรมีสุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดี และได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนที่สำคัญ
  • มีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคเข้าส่วนการผลิตผ่านทางบุคลากร
  • บุคลากรที่เจ็บป่วยด้วยโรคติดเชื้อซึ่งอาจปนเปื้อนสู่ระบบการผลิต ห้ามเข้าปฏิบัติงานภายในส่วนโรงเรือนเลี้ยงสุกร

4. สุขภาพสัตว์

4.1 การป้องกันและควบคุมโรค

  • มีมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพในการป้องกันและควบคุมโรคอย่างเหมาะสมภายใต้การกำกับดูแลของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร
  • มีมาตรการป้องกันโรคที่อาจมากับสุกรรุ่นใหม่ที่นำเข้าฟาร์ม
  • มีการป้องกันและควบคุมโรคที่มากับยานพาหนะ อุปกรณ์ และบุคคลก่อนเข้า-ออกฟาร์ม รวมถึงมีการจดบันทึกการผ่านเข้า-ออกที่สามารถตรวจสอบได้
  • มีโปรแกรมการสร้างภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร

4.2 การบำบัดโรคสัตว์

  • การบำบัดโรคสัตว์จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร โดยปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510
  • การใช้เข็มฉีดยาสุกร ต้องมีวิธีปฏิบัติงานในการป้องกันไม่ไม่ให้เข็มฉีดยาหักค้างในตัวสัตว์ และมีมาตรการแก้ไขในกรณีที่เกิดปัญหา

5. สวัสดิภาพสัตว์

  • เลี้ยงหรือดูแลให้สุกรมีความเป็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557
  • กรณีที่สุกรป่วย บาดเจ็บ หรือพิการ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ ให้ปฏิบัติอย่างเหมาะสม ไม่ให้เกิดความทุกข์ทรมาน โดยการพิจารณาทำการุณยฆาต ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์มสุกร

6. สิ่งแวดล้อม

  • จัดเก็บขยะมูลฝอยในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด นำไปกำจัดอย่างเหมาะสม และถูกสุขลักษณะ
  • มีวิธีการจัดการมูลฝอยติดเชื้อและขยะอันตราย แยกจากขยะทั่วไป
  • กำจัดและทำลายชากสุกรด้วยวิธีที่เหมาะสม
  • มีระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อปรับปรุงคุณภาพของน้ำทิ้ง โดยน้ำทิ้งจากฟาร์มสุกรต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • มีการจัดการมูลสุกรและการป้องกันกลิ่นรบกวน

7. การบันทึกข้อมูล

  • มีการบันทึกข้อมูลผลการปฏิบัติงานในขั้นตอนที่สำคัญที่สำคันการจัดการฟาร์ม ดังนี้
    • ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสุกร เช่น หมายเลข อายุ เพศ พันธุ์ ประวัติการผสมพันธุ์ การคลอด การได้รับวัคซีน และการรักษาพยาบาล
    • การจัดการอาหารและน้ำ เช่น แหล่งที่มาของอาหาร  และน้ำ
    • การรับสุกรที่แสดงแหล่งที่มา
    • การจำหน่ายและการกระจายสุกร
    • การเข้า-ออกของบุคคลและยานพาหนะ
    • การใช้สารเคมี ยาฆ่าเชื้อ หรือวัตถุอันตราย
    • การใช้วัคซีนและยาสัตว์ เช่น ใบสั่งยาสัตว์ ใบมอบหมายการใช้ยาสัตว์
    • ข้อมูลบุคลากร เช่น ประวัติบุคลากร ประวัติการฝึกอบหรือการถ่ายทอดความรู้ หน้าที่ความรับผิดชอบ และผลการตรวจสุขภาพประจำปี
    • บันทึกที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดน้ำเสีย
  • ให้เก็บรักษาบันทึกข้อมูลเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี
E-Book มาตรฐาน/กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร (มกษ. 6403-2565)
กำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทการเลี้ยงสุกร
มาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทการเลี้ยงสุกร
หลักปฏิบัตที่ดีในการจัดการ สิ่งแวดล้อมสําหรับฟาร์มสุกร
ข้อมูลภาพรวมมาตรฐาน